Newsletter 2/2564
ภาพรวมธุรกิจ
จากสถิติของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เบี้ยประกันวินาศภัยรวมสำหรับเดือน มกราคม – มีนาคม 2564 จำนวน 64,571 ล้านบาท หรือเติบโตเท่ากับ 1.54% แบ่งเป็นรายละเอียดยอดเบี้ยตามประเภทกรมธรรม์ตามภาพประกอบที่ 1
แหล่งข้อมูล: คปภ., สรุปข้อมูลธุรกิจประกันวินาศภัย ประจำไตรมาส 1/2564
ภาพประกอบที่ 1 รายละเอียดยอดเบี้ยประกันวินาศภัยแบ่งตามประเภทกรมธรรม์
และเบี้ยประกันชีวิตปีแรก ปีต่อไป และจ่ายครั้งเดียว สำหรับเดือน มกราคม – มีนาคม 2564 จำนวน 147,558 ล้านบาท จากกรมธรรม์ปีแรกจำนวน 23,582 ล้านบาท กรมธรรม์ปีต่อจำนวน 105,596 ล้านบาทและจากสัญญาจ่ายครั้งเดียวจำนวน 18,380 ล้านบาท รายละเอียดยอดเบี้ยแบ่งตามประเภทของเบี้ยประกันตามภาพประกอบที่ 2
แหล่งข้อมูล: คปภ., สรุปข้อมูลธุรกิจประกันชีวิต ประจำไตรมาส 1/2564
ภาพประกอบที่ 2 รายละเอียดยอดเบี้ยประกันชีวิตแบ่งตามประเภทของเบี้ยประกัน
ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ประเทศไทยประสบปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 อย่างหนักจากหลากหลายสายพันธุ์ทำให้ประชาชนเป็นกังวลและใส่ใจในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายประกันโควิดและประกันสุขภาพมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทมีความพร้อมและเตรียมแผนรองรับการจัดการภาวะวิกฤตอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น การเตรียมความพร้อมสำหรับการทำงานจากที่บ้าน – Work From Home และการขายแบบออนไลน์สำหรับการขายกรมธรรม์ใหม่และการต่ออายุผลิตภัณฑ์ “เจอ จ่าย จบ” และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของบริษัท แม้จะมีผลกระทบจากการแพร่ระบาดในวงกว้างก็ตาม และในไตรมาสนี้ บริษัทยังคงเติบโตมากขึ้นตามแผนที่วางไว้ จากยอดขาย การควบคุมค่าใช้จ่ายและการใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเน้นความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้า ควบคู่ไปกับการสนับสนุนให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างปกติได้ บริษัทจึงกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ ภายในบริษัทตามมาตรฐานและข้อกำหนดต่าง ๆ ของภาครัฐอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งสื่อสารให้พนักงานทุกคนรับทราบเพื่อให้ปฏิบัติตามได้อย่างถูกต้อง รวมถึงการร่วมมือกับภาครัฐ เช่น สำนักงานเขตพื้นที่และหน่วยงานอื่นๆ ในการวางแผนการจัดหาวัคซีนให้แก่พนักงาน อีกทั้งการจัดให้มีการเตรียมความพร้อมของพนักงานสำหรับการทำงานรูปแบบใหม่ อาทิ การทำงานจากที่บ้าน - Work From Home เพื่อผลลัพธ์การปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามเป้าหมายที่บริษัทกำหนดไว้
ภาพรวมบริษัท
ภาพรวมบริษัทรวม 2 ไตรมาส
- รายได้ค่าบริการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เท่ากับ 835.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 728.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 106.9 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 14.7 YoY สาเหตุจากยอดขายและบริการที่เพิ่มมากขึ้นในผลิตภัณฑ์ประกันภัยหลายประเภทในทุกช่องทาง
- ในขณะที่ต้นทุนและค่าใช้จ่ายการให้บริการประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เท่ากับ 392.3 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 45.7 ของรายได้รวม เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 361.6 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 48.4 เพิ่มขึ้นจำนวน 30.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 8.5 YoY เพิ่มขึ้นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น
- จากเหตุผลข้างต้นทำให้กำไรขั้นต้นประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เท่ากับ 443.4 ล้านบาทหรือคิดเป็นร้อยละ 53.1 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่ 367.2 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 50.4 เพิ่มขึ้นจำนวน 76.2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.8 YoY เพิ่มขึ้นจากการขยายการขายผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เท่ากับ 188.0 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21.9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวของปีก่อนที่ 183.8 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 24.6 เพิ่มขึ้นจำนวน 4.2 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 2.3 YoY สาเหตุจากสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 บริษัทได้เล็งเห็นความสำคัญของบุคลากรในองค์กร โดยได้ทำประกันโควิดให้กับพนักงานทุกคนพร้อมทั้งร่วมบริจาคเพื่อจัดซื้อเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติและร่วมบริจาคเงินกับมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้รวมถึงการจัดถุงยังชีพช่วยเหลือตามชุมชนต่าง ๆ ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายพิเศษเพิ่มมากขึ้น
- กลุ่มบริษัทฯมีกำไรสุทธิรวมจากผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เท่ากับ 220.6 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 25.7 เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 162.9 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 21.8 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจำนวน 57.7 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35.5 YoY จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายทุกช่องทาง การบริหารและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กำไรต่อหุ้นรวม 2 ไตรมาสเท่ากับ 1.41 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากยอดรวม 2 ไตรมาสของปีก่อนเท่ากับ 0.27 บาทต่อหุ้น หรือเท่ากับ ร้อยละ 23.7 และในไตรมาสที่ 2 กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.74 บาทต่อหุ้น เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเท่ากับ 0.54 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 0.20 บาทต่อหุ้น โดยที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 ได้มีมติอนุมัติให้มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสด จำนวน 1.45 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผลวันที่ 27 สิงหาคม 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายน 2564
ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์
โทร.02 119 8888 ต่อ 5009