บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่นโชว์ศักยภาพผู้นำ โบรกเกอร์ประกันภัย ประกาศความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกระดับธุรกิจส่ยุคดิจิทัล
01 พฤศจิกายน 2561 บมจ.ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่นโชว์ศักยภาพผู้นำ โบรกเกอร์ประกันภัย ประกาศความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกระดับธุรกิจส่ยุคดิจิทัล
บมจ. ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น (“บริษัทฯ”) ผู้นําธุรกิจนายหน้าประกันภัยในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “TQM ไม่หยุดทําดี ที่สุดเพื่อคุณ” โชว์ศักยภาพเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO ในจํานวน ไม่เกิน 75 ล้านห้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น ตั้งเป้านําเงินจากการระดมทุนเพื่อปรับปรุง และพัฒนาระบบเทคโนโลยี สารสนเทศและซอฟท์แวร์ รับสังคมยุคดิจิทัล และรับการเติบโตของอุตสาหกรรมประกันภัย ยํ้าบริษัทฯ มีศักยภาพพร้อม เติบโต จากอุตสาหกรรมประกันภัยที่เติบโตต่อเนื่อง ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท บมจ. ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น ผู้นําธุรกิจนายหน้าประกันภัย ภายใต้แนวคิด “TQM ไม่หยุดทําดีที่สุดเพื่อคุณ” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคําขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูล การเสนอขายหลักทรัพย์ และร่างหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ต่อสํานักงานคณะกรรมการกา
กับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สํานักงาน ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จํานวนไม่เกิน 75 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 25ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้น ในครั้งนี้
ปัจจุบันบริษัทฯ แบ่งการดําเนินธุรกิจเป็น 4 ด้าน คือ (1) ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ให้บริการผ่านบริษัท ทีคิว เอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จํากัด (“TQM Broker”)โดยมีการขายผลิตภัณฑ์ประกนวินาศภัยทั้งสิ้นกว่า 130 ผลิตภัณฑ์ ทั้งใน กลุ่มประกันรถยนต์ ( Motor) ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ (พ.ร.บ.)และกลุ่มประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ และกลุ่มประกัน Non-Motor ในรูปแบบประกันอัคคีภัย
ประกันภัยทางทะเลและขนส่ง และประกันวินาศภัยเบ็ดเตล็ด เป็นต้น (2) ธุรกิจนายหน้าประกันชีวิต ดําเนินธุรกิจผ่านบริษัท ทีคิวเอ็ม ไลฟ์ อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จํากัด (“TQM Life”) ซึ่งมี การเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตทั้งสิ้นกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ ครอบคลุมทั้งประกันชีวิตประเภทรายบุคคลและ ประกันชีวิต ประเภทกลุ่ม (3) ธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและซอฟต์แวร์ผ่านบริษัท แคสแมท จํากัด (“Casmatt”) ซึ่ง ครอบคลุมการให้คําปรึกษาด้านกระบวนการทางธุรกิจงานวิจัยตลาดดิจิตอล เป็นต้น และ (4) ธุรกิจให้บริการด้านคําแนะนํา เกี่ยวกับประกันภัยผ่าน บริษัท ทีคิวแอลดี จํากัด (“TQLD”) ซึ่งเป็นบริษัทร่วม เพื่อเป็นช่องทางให้กบลูกค้าในการค้นหาและ เปรียบเทียบข้อมูลประกันภัยได้อย่างรวดเร็ว และประหยัดเวลาผ่านรูปแบบการกรอกข้อมูลของลูกค้า ทั้งนี้ปัจจุบัน กลุ่ม บริษัทฯ มีพันธมิตรที่เป็นบริษัทประกันภัยกว่า 40 แห่ง มีพนักงานขายที่ได้รับใบอนุญาตนายหน้าประกันภัย ให้บริการกว่า 2,000 คน ผ่านสาขาและศูนย์บริการทั่วประเทศ ร่วม 95 แห่ง ที่สามารถให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมและทัวถึงทุกพื้นที่ทั่ว ประเทศไทย
ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ. ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่าภาพร่วมธุรกิจของบริษัทฯ มีการเติบโตที่ดี อยางต่อเนื่อง มีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมประกัน ทําให้โอกาสเติบโตมีมาก นอกจากนี้อัตรา การทําประกันภัยในประเทศไทยยังตํ่าเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยจากข้อมูลรายงานธุรกิจประกัน ประจําปี 2559 ของ สวีส รีอินชัวร์รัน ซึ่งเป็นบริษัทประกันชั้นนำของโลก พบว่าธุรกิจประกันของประเทศในทวีปเอเชีย ประเทศไทย มีสัดส ั ่วน เบี้ยประกันรับรวมทุกประเภทต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Insurance Penetration) ที่ร้อยละ 5.42 หากพิจารณา เบี้ย ประกันภัยต่อคน (Insurance Density) พบว่าประเทศไทยมีเบี้ยประกันภัยต่อคน (Insurance Density) เพียง 323.4 ดอลลาร์ สหรัฐต่อคน (GDP)
ต่อจํานวนประชากร ตํ่ากวาประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และเกาหลีใต้ซึ่งผลดังกล่าวจะทําให้บริษัท ฯ ได้รับประโยชน์จากอุตสาหกรรมประกันที่มีโอกาสขยายตัวได้อีกในอนาคต โดยกลุ่มบริษัทฯ ซึ่งประกอบธุรกิจนายหน้า ประกันภัย จึงไม่มีความเสี่ยงด้านการดํารงเงินกองทุน ฯ และการบริหารผลตอบแทนจากเบี้ยประกันภัย
“ปัจจุบันรูปแบบการทําธุรกิจนายหน้าประกันภัย นั้นมีความท้าทายมากขึ้น ซึ่งบริษัทฯ เห็นโอกาสนําเทคโนโลยีเข้า มาช่วยขยายฐานลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้ดีมากยิงขึ้น จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลการดําเนินและรักษาความ เป็นผู้นําธุรกิจโบรกเกอร์ประกันภัยให้ แก่บริษัทฯ อย่างยั่งยืน ” ดร.นภัสนันท์กล่าว
นายพิเชษฐ สิทธิอํานวย กรรมการผู้อํานวยการบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการ เงินร่วม เปิดเผยว่าปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดยเป็นทุนที่ชําระแล้ว 225 ล้านบาทมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1.00 บาท และจะเสนอขายหุ้น IPO จํานวนไม่เกิน 75ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 25 ของจํานวนหุ้นสามัญที่ ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ซึ่งในจํานวนนี้จะจัดสรรให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และ/หรือพนักงานบริษัท และ/หรือพนักงานบริษัทย่อย (ESOP)จํานวนไม่เกิน 11.25 ล้านหุ้น หรือไม่เกินร้อยละ 15 ของจํานวนหุ้น IPO ที่เสนอขายทั้งหมด และส่วนที่เหลือจะเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไป
นางสาวพันทิตา แซ่เอ็ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวานิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จํากัด (มหาชน) ในฐานะ ที่ปรึกษาทางการเงินร่วม เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีวัตถุประสงค์การใช้เงิน โดยจะระดมทุนเพื่่อนําไปใช้พัฒนาโครงการสําหรับ ปรับปรุงและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โครงการพัฒนากระบวนการทางธุรกิจ โดยลงทุนในระบบ Enterprise Resource Planning (ERP) การเพิ่มทุนชําระแล้วในบริษัทแกน ได้แก่ TQM Broker และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่ม บริษัทฯ
ทั้งนี้บริษัทฯ ดําเนินธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักในการให้บริการ นายหน้าประกนภัยปัจจุบันมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลัก 2 บริษัท ได้แก่ TQM Broker ดําเนินธุรกิจเป็นนายหน้าประกันวินาศภัย และ TQM Life ดําเนินธุรกิจเป็นนายหน้าประกันชีวิต